Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ประวัติของมะคาเดเมีย

Posted By Plookpedia | 01 พ.ค. 60
1,218 Views

  Favorite

ประวัติของมะคาเดเมีย

      มะคาเดเมีย (macadamia) ถูกค้นพบครั้งแรกโดย Friedrich Wilhelm Ludwig Leichhardt ชาวเยอรมัน ในพ.ศ. ๒๓๘๖ ที่ประเทศออสเตรเลียแต่เก็บตัวอย่างพืชไว้โดยไม่ดำเนินการใด ๆ ต่อมาใน พ.ศ. ๒๔๐๐ มีผู้ที่ค้นพบพืชชนิดนี้อีกครั้ง คือ Baron Sir Ferdinand Jacob Heinrich von Mueller ชาวเยอรมันซึ่งได้ไปสำรวจและเก็บตัวอย่างพืชชนิดนี้แล้วนำมาทดลองปลูกและขอจดทะเบียนเป็นพืชสกุลใหม่ว่า Macadamia เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ที่เขานิยมชมชอบและให้ความเคารพอย่างมาก คือ นายจอห์น แมคาแดม (John Macadam) ชาวอังกฤษเชื้อสายสก็อต อาจารย์สอนวิชาเคมีที่สก็อตช์คอลเลจ (Scotch College) มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย คำว่า “มะคาเดเมีย” หรือ macadamia ถ้าจะอ่านออกเสียงในภาษาอังกฤษให้ถูกต้องควรเน้นหนักที่พยางค์แรกคือ อ่านว่า แม-คา-เด-เมีย เพราะชื่อของพืชชนิดนี้ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ นายจอห์น แมคาแดม หลายคนพยายามเขียนแยกเป็น ๒ พยางค์ โดยสะกดเป็น Mac Adam (อ่านว่า แมก-อาดัม) แต่ไม่ว่าจะสะกดแบบใดก็ต้องเน้นเสียงคำว่า Mac หรือ แมก  อย่างไรก็ดีเรื่องการเรียกชื่อนั้นพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจักรพันธ์ เพ็ญศิริ ทรงเสนอแนะให้เขียนว่า “มะคาเดเมีย” แบบไทยเพราะคนไทยมักเรียกชื่อผลไม้นำหน้าด้วยคำว่า “มะ” เช่น มะม่วง มะพร้าว มะก่อ มะ... นอกจากนี้บุคคลที่ทำงานเกี่ยวกับพืชชนิดนี้ก็ให้การยอมรับและมักเรียกกันสั้น ๆ ว่า “ต้นมะคา” หรือ “ลูกมะคา” ดังนั้นแม้ว่าการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษที่ถูกต้องจะต้องใช้ว่า “แมคาเดเมีย” ก็ตามแต่เพื่อให้คุ้นกับคนไทยจึงควรใช้คำว่า “มะคาเดเมีย”

 

มะคาเดเมีย
นายจอห์น แมคาแดม

 

      จากประวัติดั้งเดิมพบว่ามะคาเดเมียมีทั้งหมดประมาณ ๑๐ ชนิด (species) โดยปลูกอยู่ในประเทศออสเตรเลีย ๖ ชนิด ที่เกาะเซเลเบส (Celebes) แถบเกาะสุมาตราประเทศอินโดนีเซีย ๑ ชนิด และที่เหลืออีก ๓ ชนิดปลูกอยู่ในแถบหมู่เกาะนิวคาเลโดเนีย (New Caledonia) ใกล้กับประเทศปาปัวนิวกินี  มะคาเดเมียทั้ง ๑๐ ชนิด มีอยู่เพียง ๒ ชนิดเท่านั้นที่มีรสชาติอร่อยและนำมารับประทานได้ โดยเป็นไม้ป่าหรือพืชพื้นเมืองของประเทศออสเตรเลีย คือ ชนิด M.integrifolia ซึ่งผลมีกะลาผิวเรียบ และชนิด M.tetraphylla ซึ่งผลมีกะลาแต่ผิวหยาบหรือขรุขระ ทั้ง ๒ ชนิดนี้มีเส้นผ่าศูนย์กลางโดยเฉลี่ยอยู่ระหว่าง ๑.๘-๒.๘ เซนติเมตร โดยพบอยู่ในบริเวณป่าชื้นที่มีฝนตกชายทะเลทางใต้ของรัฐควีนส์แลนด์และทางเหนือของรัฐนิวเซาท์เวลส์ในระหว่างเส้นละติจูดที่ ๒๕-๓๒ องศาใต้ นอกจากนี้ ยังมีมะคาเดเมียอีกชนิดหนึ่ง เรียกว่า Gympie nut เป็นชนิด M.ternifolia  ซึ่งเป็นไม้ป่าของเมืองยิมปี (Gympie)  ในประเทศออสเตรเลียแต่ผลมีขนาดเล็กกว่าคือมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๑-๑.๔ เซนติเมตร รูปทรงของผลค่อนข้างยาวรีแบบลูกรักบี้ซึ่งต่างไปจาก ๒ ชนิดแรกที่มีผลกลมเป็นส่วนใหญ่

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
  • Posted By
  • Plookpedia
  • 15 Followers
  • Follow